ความแตกต่างระหว่าง “ผู้เสียหาย” กับ “ผู้เสือก” กรณีศึกษาจากพฤติกรรมของ
“แสบสันต์ ประสาทเสื่อม”
ถึงเวลาที่นายแสบสันต์ ประสาทเสื่อม ต้องนั่งลงนึกและตรึกตรอง ถึงพฤติกรรมชั่วที่ยังหลงอยู่ในวังวนของคนหลอกลวงควรจะเลิกตั้งแก๊ง
“แกล้งรักประชาชน”ด้วยกลลวงเพื่อกรรโชกทรัพย์ เผลอปั๊บตบทรัพย์ก็มี เหตุใด
“แสบสันต์” จึงไม่ค่อยสมหวังจากเจ้าหน้าที่ของรัฐในเรื่องการไปแจ้งความต่างๆ...เพราะแสบสันต์มิใช่เป็นผู้เสียหาย
“แต่เป็นเพียงผู้เสือก” ดังนั้นเมื่อไปดำเนินคดีในฐานะ “ผู้เสือก”
จึงไม่มีข้อกฎหมายให้ “ผู้เสือก” นำมากล่าวอ้างได้
เพราะต้องเป็นผู้เสียหายที่แท้จริงเท่านั้น ดังนั้นนายแสบสันต์ในฐานะ “ผู้เสือก”
จึงควรจะเลิกเสือกได้แล้วเพราะเสียเวลา...
มีข่าวรายงานว่ากำลังจะเป็นบ้าเพราะไป”เสือก” ที่ไหนเจ้าหน้าที่ก็ไม่ค่อยเอาด้วย
ไปกองปราบ ไป DSI ไป สภ.อ. ไปป่าช้า 55555
เวลาไปเสือกให้ได้ผล ต้องบอกเจ้าหน้าที่ด้วยว่าการมาของผมในครั้งนี้ ผมพูดความจริงไม่หมดนะครับ
เพราะอาชีพผมกรรโชกทรัพย์เป็นอาจิณ ผมมา
”เสือก”ในครั้งนี้เพราะผมผิดหวังจากการที่ผมอยากได้ทรัพย์ของเขาเป็นเงินสด
ผมอยากได้ตำแหน่งทั่นอธิการ ผมอยากได้มหาวิทยาลัยมาเป็นของเล่นเท่ห์ๆ
ควรจะบอกความจริงให้หมดรับรองว่าเจ้าหน้าที่จะให้ความร่วมมือแน่นอน อีกไม่กี่วันนี้
ถ้ามีการ “เสือก” เพิ่มเติมอีกอาจจะโดนรวบทันที เพราะหมายเรียกกำลังออกหลายท้องที่
และกำลังกลายเป็นหมายจับ...ต้องเตรียม...ทนาย...เตรียมการประกันตัว
ในคดีอาญาผู้ที่จะร้องทุกข์กล่าวโทษผู้อื่นต้องเป็นผู้เสียหายที่แท้จริงเท่านั้น
ส่วน “ผู้เสือก” ไม่มีสิทธิร้องทุกข์กล่าวโทษ ยกเว้น “ผู้เสือก”
จะโดนประทุษร้ายแก่กายหรือจิตใจ
ดังนั้นโดยสรุป
ในความพยายามทั้งหมดของ “แสบสันต์ ประสาทเสื่อม” ผอ.ออ เบาะเน่า
(ผอ.แปลว่าผู้กระทำการอันอุบาทว์) เป็นเพียง “ผู้เสือก” มิใช่ผู้เสียหาย
จึงขอให้เลิกเสือกและเปลี่ยนบทบาทของแก๊งเบาะเน่า เป็นกลุ่มผู้ร้ายกลับใจพาคนไปทำบุญดีกว่า
จะมีบุญเยอะกว่ากัน อย่างน้อยก็ต่ออายุให้ยืนไปอีกได้อีกสักระยะหนึ่ง
ด้วยความปรารถนาดี
เคียว คมกระบี่
ท่านใดต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก
ตอบลบโปรดติดต่อ ศรีไพร ประสาทสงค์ โทรศัพท์ 089-090-0376