วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2556

ความเป็นมาของ มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก

http://www.upload-thai.com/download.php?id=9cb4d1f17961c8e245e8553a31bb9b9f


มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก   World Peace University

            เมื่อได้เห็นหรือได้ยินชื่อว่า สันติภาพโลก วิญญูชนทั่วไปย่อมจะรู้สึกขึ้นมาทันทีเลยว่า.....เป็นประโยคที่.....ให้ความรู้สึกไปในทางที่ดี ทำให้คิดจินตนาการต่อไปได้ว่า เป็นสิ่งที่สังคมโลกของคนทุกเผ่าพันธุ์ ต้องการสันติภาพและสันติภาพนั้นก็ย่อมนำมาซึ่งสันติสุขดังนั้นสันติภาพจึงเป็นพื้นที่ทางความคิดของคนดี ผู้มีวิสัยทัศน์ ( VISION )    ที่กว้างไกลไร้ขอบเขตจำกัด สันติภาพที่ไร้ขอบเขตจำกัดจึงไม่ควรถูกจำกัดอยู่จำเพาะองค์กรหนึ่งองค์กรใด และควรที่จะกระทำให้เกิดขึ้นให้ได้ในทุกๆหน่วยของสังคม ทั้งระดับครอบครัว ชุมชน สังคมใหญ่ในระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ประเทศ ภูมิภาค ทวีป และโลก !

     สันติภาพจึงมิใช่เป็นทรัพย์สมบัติหรือเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นของทุกคน หากสังคมใดต้องการให้มีสันติภาพเกิดขึ้น สังคมนั้นย่อมต้องให้การยอมรับและมองให้เห็นคุณค่าของคนในสังคมนั้น โดยต้องไม่กีดกันความแตกต่างที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ดังเช่นในสังคมของชุมชนที่มีปราชญ์ชุมชน ที่เรียนรู้พัฒนาตนเองด้วยวิธีการคิดและลงมือปฏิบัติไปในทางสร้างสรรค์และเกิดผลดีต่อส่วนรวม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราจึงเห็นว่าสินค้าที่เรียกว่าโอทอป(OTOP) หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ได้ถูกนำเสนอสู่สังคมตั้งแต่ชุมชนเล็กๆจนกระทั่งถึงตลาดโลก ซึ่งสิ่งเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นภูมิปัญญาธรรมชาติที่เป็นความสามารถ ซึ่งมีอยู่ในรูปแบบของพรสวรรค์หรือความสามารถเฉพาะตัวของบุคคลแทบทั้งสิ้น ความเป็นศิลปินจากความเป็นคนเหมือนกัน แต่ความสามารถที่เป็น พรสวรรค์ต่างกัน จึงทำให้ศิลปินคนนั้นกลายเป็นขวัญใจของประชาชน และยังมีคนอีกจำนวนมากมายที่อยู่ในหลากหลายอาชีพ เขาเหล่านั้นมีความสามารถ มีฝีมือ มีความชำนาญ มีความเฉลียวฉลาดไร้ขอบเขตจำกัด แต่เขาเหล่านั้นไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือในระบบของการศึกษาที่ถูกสังคมตีกรอบให้เขาเหล่านั้นไม่สามารถเข้าถึง เพียงเพราะเหตุปัจจัยทางการเงิน หรือความสัมพันธ์กับบุคคลพิเศษ ผู้มีอำนาจไม่เปิดโอกาสให้เข้าถึงได้โดยง่าย หรือเพราะอยู่ห่างไกลความเจริญ ทางวัตถุหรือเทคโนโลยีสมัยใหม่ หรือเพราะความมั่นใจในสิ่งที่เป็นตัวตนของตนเองจึงกล้าแสดงออกถึงความคิดเห็นและการกระทำอื่นๆที่โดดเด่นจนเป็นเหตุให้มีการ  สกัดดาวรุ่งจากผู้มีอำนาจที่มีจิตริษยาไม่อยากเห็นผู้อื่นดีกว่าตน จนเกิดความหมั่นไส้สังคมไทยจึงถูกปล่อยปละละเลยให้สิ่งต่างๆดังกล่าวมาเกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน เป็นเหตุให้การบริหารจัดการเกี่ยวกับสังคมอยู่ในรูปแบบ ติดหล่มเคลื่อนไหวไปมาลำบาก การสถาปนายอมรับ ต้องอยู่ในกรอบที่บางเรื่องราวไม่มีความจำเป็นต้องนำเอากรอบเดิมที่ล้มเหลวซ้ำซากมาเป็นกรอบครอบงำสิ่งที่ถูกสร้างสรรค์ใหม่อีกต่อไป ดูเหมือนสังคมไทยยังคงเป็นอยู่เช่นนี้  อีกอย่างโดดเด่นเห็นได้ชัด จึงกลายเป็นเสียงบ่นจากทางสังคมว่า คนดีไม่กล้าแต่คนบ้าฮึกเหิม คนทำดีไม่มีโอกาสได้ตำแหน่งดีๆ แต่คนไม่ดีกลับได้รับการส่งเสริม คนมีความรู้ความสามารถขาดกำลังใจ เพราะถูกกีดกัน คนเป็นผู้นำขาดหลักธรรมาภิบาลที่ดี คนไม่ดีกลับใช้ความสามารถทางวิชามารเพื่อเป็นฐานก้าวข้ามหัวคนดีที่ไม่กล้าหาญ เพราะหากคนดีกล้าหาญแต่เป็นระบบข้าราชการแล้วละก้อเป็นอันต้องทำให้อนาคตมืดมน เราจึงเห็นคนดีคนเก่งในระบบราชการกลายเป็น จิ้งจกเปลี่ยนสี เพราะเหตุว่ามีคนไม่ดีเข้ามามีอำนาจ เมื่อความไม่ดีเข้ามาครอบงำสังคมความไม่ชอบธรรม ความไม่เที่ยงธรรม ความไม่รักษาน้ำใจ ความไม่เอาไหน ต่อการยอมรับยกย่องคนดี จึงมีให้เห็นอย่างเด่นชัด แล้วสันติภาพและสันติสุขจะเกิดขึ้นในสังคมได้อย่างไร เพราะเราได้ปล่อยให้ความดี ความถูกต้อง ความยุติธรรม ถูกใส่กรอบไว้จำเพาะเหตุผลที่คนนำไปเข้าข้างตนเองว่าถูกต้องเท่านั้นเอง

            มหาวิทยาลัยสันติภาพโลกเกิดขึ้นจากแนวความคิดและมุมมองที่คมชัดจากนักวิชาการผู้รักสันติภาพ ที่เป็นผู้กล้าหาญในการใช้ประสบการณ์ชีวิตของความเป็นครูและเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย ถ้าให้กรอบของความเป็นอาจารย์ซึ่งเป็นข้าราชการที่มียศถาบรรดาศักดิ์นำหน้าอยู่ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นเวลา 30 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่กล้าคิด  กล้าพูด กล้าทำ เป็นผู้ที่เคยเป็นทั้งผู้ตามและผู้นำทางวิชาการและการบริหาร เป็นผู้กล้าคิดกล้าเขียนและกล้าสอนให้ลูกศิษย์ลูกหากล้าคิดนอกกรอบ กล้าแหวกกรงความคิดด้านวิชาการสู่การปฏิบัติที่ต้องใช้เวลาในการต่อสู้กับความคิดของผู้ต่อต้านซึ่งยังเป็นนักวิชาการที่อยู่ในกรอบอย่างทรนง จนกระทั่งสังคมโลกแห่งความเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างแห่งรูปแบบการเรียนการสอนที่ผู้สอนและผู้เรียนไม่จำเป็นที่ต้องอยู่ในกรอบเดิมแบบไทยๆในอดีตอีกต่อไปและแล้ว นักวิชาการผู้กล้าหาญอย่างชาญฉลาด คือ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.สวัสดิ์ บันเทิงสุข  จึงได้ลงนามในคำแถลงร่วม (Joint Statement กับ UN – ESCAP และ UNESCO เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ค.ศ.2000)

เพื่อการขับ เพื่อสันติภาพทั้งนี้เพื่อให้เกิดสันติภาพในภูมิภาคเอเชีย โดยมี สะพานมิตรภาพไทย – พม่า ที่แม่สอดเป็นการเชื่อมโยงให้การเดินทางโดยทางบก (Land Route) ในการเดินหน้าทางวิชาการนอกกรอบโดยอาศัยความเป็นสากลมาให้คนไทย ผู้ใฝ่รู้ ใฝ่ศึกษาทางวิชาการในรูปแบบการเรียนการสอนแบบนอกกรอบและไม่กีดกัน พร้อมด้วยส่งเสริมให้ยังคงมีรูปแบบการเรียนการสอนในกรอบมหาวิทยาลัยแบบเดิมๆอยู่บ้างแต่ก็มิปล่อยให้ผู้เรียนต้องหลงทาง เส้นทางแห่งการส่งเสริมสถาปนาภูมิปัญญาของคนที่เดินอยู่บนถนนสายความจริง ซึ่งยิ่งเดินไปยิ่งไกลและยิ่งกว้าง จึงถูกสร้างขึ้นมาในกรอบความคิดในทางปฏิบัติของมหาวิทยาลัยสันติภาพโลกซึ่งต่อมายังมีปฏิญญาเชียงรายและอีกหลายบันทึกข้อตกลงกับองค์กรต่างๆอย่างกว้างขวางจากการเดินทางด้านการศึกษาในระดับปริญญาเอกจากต่างประเทศ และการใช้ชีวิตของความเป็นนักวิชาการในระดับศาสตราจารย์ และการเขียนหนังสือนอกกรอบทางวิชาการ การฝึกอบรมให้ผู้ใฝ่หาความรู้เพื่อการพัฒนาชีวิตตลอดช่วงชีวิตของผู้เป็นครูอาจารย์ จึงรู้จริงเห็นแจ้งว่าเป็นเวลาที่จะต้องยกระดับคุณค่าของคนบนเส้นทางของมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก บนพื้นฐานทางความคิดที่ต้องปรับความคิดให้ทันคน ปรับคนให้ทันความเปลี่ยนแปลง ปรับความเปลี่ยนแปลงให้ทันยุค แล้วก็ถึงยุคแห่งการร้องหาสันติภาพในสังคมโลกซึ่งกำลังมีเสียงดังกึกก้องขึ้นในทุกขณะ อุปสรรคของสันติภาพจากการถูกกีดกันหรือตีกรอบครอบงำ จะไม่สามารถเติบโตได้อีกต่อไป

     มหาวิทยาลัยสันติภาพโลกจึงมีคณะนักวิชาการ นักบริหาร นักธุรกิจ ที่มีแนวคิดและมุมมองไปในทิศทางเดียวกันได้ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทยภายใต้สัมพันธภาพที่ดีกับนักวิชาการในต่างประเทศอย่างแนบแน่น โดยมีที่อยู่ของสำนักงาน  งานมหาวิทยาลัยอยู่เลขที่ 506 Parkside Place, Indian Harbor Beach, FL 32937 USA. Tel : 321 777 2323 FL.USA.(รัฐฟลอริดา)

            โดยมีศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.สวัสดิ์ บรรเทิงสุข เป็นอธิการบดี  ศาสตราภิชาน ดร.เรวัตร์ ชาตรีวิศิษฏ์ เป็นนายกสภามหาวิทยาลัย  ศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์  ดร.ศุภณัฐ ดอนจันทร์ เป็นนายทะเบียนมหาวิทยาลัย   และมีนักวิชาการและผู้ทรงคุณวุฒิทางสังคมอีกมากมายได้ร่วมกันสถาปนามหาวิทยาลัย ให้ก้าวไปสู่สังคมด้วยอุดมการณ์แห่งการสร้างสรรค์ให้เกิดสันติภาพขึ้นในทุกหน่วยของสังคมโลกในวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ณ โรงแรมแชงกรีลา จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในวันสถาปนามหาวิทยาลัยนั้นทางฝ่ายบริหารได้เสนอชื่อและรับรองบุคคลต่างๆที่มีวุฒิภาวะทางสังคม มีผลงานและประสบการณ์ชีวิตที่มีคุณค่าและสามารถพัฒนาสร้างสรรค์สังคมให้เป็นไปในทางที่ดีได้ซึ่งมีทั้งข้าราชการทุกระดับและบุคคลทั่วไปที่สามารถประกอบสัมมาชีพให้ดำรงตนอยู่ในสังคมได้เป็นอย่างดีพร้อมที่จะสอนให้สังคมได้เรียนรู้และปฏิบัติตามได้  ซึ่งจะมีพิธีมอบวุฒิบัตรที่สำคัญยิ่งในระดับ บัณฑิตกิตติมศักดิ์ ,  มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ และ ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ พร้อมด้วยการแต่งตั้งตำแหน่งทางวิชาการให้แก่ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษทางวิชาการในระดับ ศาสตราจารย์กิตติคุณ(Emeritus Professor)  ศาสตราจารย์เกียรติคุณ(Honorary Professor) ศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ (Honorary Professor)

            เพื่อบุคคลต่างๆที่ได้รับปริญญาบัตรและคุณวุฒิทางวิชาการ จะได้เป็นบุคคลต้นแบบของสังคมโลกใหม่ ที่มีการติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนและเรียนรู้ได้จากทั่วทุกมุมโลกอย่างไร้ขอบเขตจำกัด และจะได้เป็นภูมิปัญญาสากลที่คนทั่วโลกสามารถนำไปใช้เป็นวิธีการคิด วิธีการปฏิบัติและไม่ตัดโอกาสคนดี คนมีความสามารถ คนที่มีความเป็นปราชญ์ของสังคม ที่ไม่ต้องติดหล่มเพราะกรอบของสังคมที่แคบอีกต่อไปเหตุฉะนั้น การให้โอกาส การส่งเสริมยกระดับคุณค่าของคนในสังคมโลกจึงเป็นจุดเริ่มต้นของสันติภาพที่ดีโดยไม่จำเป็นต้องมีเงิน และติดอยู่ในกรอบเดิมเสมอไป

            มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก อันเป็นโลกกว้างทางความคิด และโลกกว้างทางวิชาการที่มีการผสมผสานทางด้านวัฒนธรรมการเรียนรู้ การยกย่องเชิดปูชนียบุคคลของสังคม การให้เกียรติผู้มีประสบการณ์ชีวิตอันเป็นทฤษฎีแห่งการปฏิบัติในทางสร้างสรรค์ และเขาเหล่านั้นยังคงมีอยู่อีกมากมายในทุกระดับของสังคม หวังว่าอุดมการณ์แห่งการสร้างคุณค่าให้เกิดแก่คนบนเส้นทางชีวิตสายสำคัญแห่งมนุษยชาติ ซึ่งได้ถูกประกาศและสถาปนาในวันนี้นั้น จะทวีคุณค่าและขยายผลสู่คนทุกชนชาติด้วยความสามารถและความเฉลียวฉลาดจากภูมิปัญญาที่ไร้ขอบเขตจำกัด  ขอแสดงความยินดีต่อผู้มีความรู้   มีความสามารถที่ได้รับการยอมรับและการมองเห็นคุณค่าของคำว่า คนดี คนมีฝีมือ คนมีความสามารถ คนมีประสบการณ์ คนสร้างสรรค์สังคม ซึ่งสมควรแล้วด้วยประการทั้งปวงกับคุณวุฒิทางวิชาการและปริญญาบัตรกิตติมศักดิ์ แห่งศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ที่จะต้องไม่หยุดนิ่ง หากแต่จะต้องเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์ให้เกิดสันติภาพอันจะก่อให้เกิดสันติสุขขึ้นในทุกระดับของสังคมตลอดไป

 

                                                                                              ด้วยความปรารถนาดีจาก

ฝ่ายบริหารมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก

                                                                                                        3 พ.ย. 2555

 

 

4 ความคิดเห็น:

  1. คำตอบ
    1. การยื่นคำให้การต้อสู้คดี จะต้องแจ้งให้ทนายความยกประเด็น " ผู้ร้องไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย มาตรา 2 (4) ปวิอาญา ให้กำชับทนาย " บุคคลนั้นต้องไม่เป็นผู้เข้าไปเกี่ยวข้องร่วมการกระทำความผิดนั้น" เบาะแสไม่มีอำนาจเป็นผู้ร้อง ยื่นคำร้องใด ๆ ต่อ สกอ. DSI สำนักพุทธ กองปราบ อื่น ๆ คือประเด็นที่จะยกฟ้อง
      ผมกำลังรวบรวมบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนีเพื่อแจ้งความดำเนินคดี เสกสรร กับพวก เป็นรายคน และให้สมาชิกทุกคนที่รับเกียรติ มอบอำนาจยื่นเป็นโจทก์ร่วม เพื่อเรียกศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์กลับคืนมา ครับท่าน Rawat

      ลบ
  2. ท่านใดต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก
    โปรดติดต่อ ศรีไพร ประสาทสงค์ โทรศัพท์ 089-090-0376

    ตอบลบ
  3. การดำเนินการใด ๆ การวิพากษ์ควรเป็นเหตูและผลของเรื่องนั้น ๆ ไม่ควรเอาความรู้สึกของตนเอง เอาความคิดของตนเองที่เคยเชื่อกันมา โดยไม่ได้มองในเรื่องข้อกฎหมาย เป็นการวิพากษ์ที่ไม่ยกกระดับตนเองให้เป็นผู้นำทางความคิด การศึกษาเป็นเรี่องของวิถีชีวิต ไม่มีโรงเรียนก็ศึกษาจากธรรมชาติ เรียนจากตนเอง เข้าใจตนเอง ไม่ละเมิดคนอื่น เข้าใจหน้าที่ตนเอง มีสติ ทำหน้าที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้สังคม อย่าใช้ตนเองเป็นศาลตัดสินคนอื่น องค์กรค์อื่น สังคมจะสงบน่าอยู่ ถ้าคิดไม่เป็นก็ฝังให้มากอ่านให้มาก พิจารณาตนเองให้มากขึ้น จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน

    ตอบลบ