วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

และแล้ว...แสบสันต์ ประสาท ผอ.เบาะเสื่อมก็ติดกับดักในหลุมพรางของตนเอง...


           และแล้ว...แสบสันต์ ประสาท ผอ.เบาะเสื่อมก็ติดกับดักในหลุมพรางของตนเอง...          
งานนี้คงได้มีคนได้ฟังเพลงแต่ปางก่อน...ที่เริ่มต้นเนื้อเพลงว่า...รอคอย...เธอมาแสนนาน...ทรมานวิญญาณหนักหนา และแล้ววันนี้ 5 คดี นายแสบสันต์ ประสาท ผอ.เบาะเสื่อมก็เจอ

1.            หมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา
2.            แจ้งความเท็จ
3.            กระทำผิด พรบ.คอมพิวเตอร์
4.            กระทำผิดต่อ สกอ.
5.            กระทำผิดต่อ สตช. (กองปราบ) จะถูกฟ้องศาลโดยตรงในคดีอาญา 9 จังหวัด

ตามความเดิมที่ นายแสบสันต์ ประสาท ผอ.เบาะเสื่อมได้มีพฤติกรรมในการพยายามกรรโชกทรัพย์ นายสวัสดิ์ บรรเทิงสุข อธิการบดีผู้ก่อตั้ง มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก ที่สนามกอล์ฟ กัซซัน จ.ลำพูน และหลังจากนั้น นายแสบสันต์ ประสาท พยายามเบี่ยงเบนประเด็นไปเป็นอย่างอื่น...เมื่อย้อนความตามเอกสารต่าง ๆ ที่ได้กล่าวถึงพฤติกรรมต่าง ๆ ของ นายแสบสันต์ ประสาท นั้นการดำรงชีพประจำวันด้วยอาชีพใดไม่ปรากฏชัด แต่ในประวัติมีพฤติกรรมในการทำมาหากินไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไป ใครตกเป็นเหยื่อที่หัวอ่อน ขวัญอ่อนเป็นอันต้องเสียทรัพย์ให้ นายแสบสันต์ ประสาท ได้มีปัจจัยเร่ไปที่ต่าง ๆ ต่อโดยไปกันเป็นทีมเพื่อแสดงให้คนเห็นถึงความเป็นผู้มีพาวเวอร์ สวมรอยเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อสร้างฉากพิเศษแล้วนำภาพมาลงหนังสือหรือสื่ออินเตอร์เน็ต โดยใช้คำพูดชี้นำไปในทำนองให้ชาวบ้านผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์หลงเชื่อว่าเป็นผู้มีอำนาจทั้ง ๆ ที่บุคคลผู้นี้เป็นบุคคลธรรมดา ที่สภาพจิตและความคิดผิดเพี้ยนไปจากบุคคลธรรมดาที่มีอาชีพสื่อมวลชนอาชีพ ครั้นจะสรุปว่า นายแสบสันต์ ประสาท เป็นสื่อมวลชนหรือไม่ ก็ไม่ใช่ เป็นตำรวจหรือเป็นทหารหรือไม่ ก็ไม่ใช่ เป็นเจ้าพนักงานในหน่วยงานราชการอื่น ๆ หรือไม่ ก็ไม่ใช่ แต่เหตุไฉนถึงได้พยายามนำเสนอตนเอง...ผอ.เบาะเสื่อม ให้คนเลื่อมใสว่ามีพาวเวอร์ แต่ก็มีคนเพียงบางส่วนที่อยู่ในระดับคลื่นความถี่เดียวกันที่ เออ ออ ห่อ หมก ตลกโปกฮาไปตามอารมณ์ของกลุ่มคนประเภทเดียวกัน แต่เนื้อหาที่เป็นสาระความรู้ที่จะช่วยให้ผู้คนในสังคมได้มีความรู้แตกฉานในความรู้ใหม่ ๆ หาได้ยากเต็มที เพราะมีแต่เรื่องจับคนโน้น แจ้งความคนนั้น ดำเนินคดีคนนี้...แล้วก็ลงเอยด้วยเรื่องราวของแม่ชีแก่ ๆ แม้กระทั่งท่านสิ้นบุญไปแล้วก็ยังนำเรื่องของท่านมาโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อสร้างความดีความชอบเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์ปัจจัยจากเหยื่อผู้ขวัญอ่อน เพื่อจะได้ร่อนกระดาษเปื้อนหมึกที่เย็บเล่มไล่แจกคนจนไม่ค่อยจะเป็นสารรูป ดูแล้วไม่มีสกุลรุนชาติของสื่อหนังสื่อพิมพ์ที่ผู้มีปัญญาจะหาเหตุผลให้น่าเชื่อถือได้ไม่ง่ายนักและมิหนำซ้ำยังมีพฤติกรรมชอบอำคน ด้วยการตั้งตนเป็นเหมือนผู้มีอิทธิพลโดยเฉพาะการปรากฏกายเป็นทีมเหมือนหน่วยปฏิบัติการพิเศษดูก้ำกึ่งว่าเป็นหน่วยงานของรัฐ ประชาชนอาจจะสับสนแต่กลวิธีแบบนี้ไม่สามารถใช้ได้ในสังคมเมืองใหญ่ นายแสบสันต์ ประสาท จึงมักไปทำมาหาเลี้ยงชีพตามแถบชานเมือง ต่างจังหวัด ไกล ๆ ประกอบกับศัตรูที่เขาได้สร้างสมไว้ก็มีมากจึงไม่สามารถอยู่ที่ใดได้นาน ๆ ต้องมีการเคลื่อนไหวไปเรื่อย ๆ

      ความล้มเหลวในการหวังเค้กก้อนเล็กจากเงิน 500,000 บาทและตำแหน่งที่ปรารถนาจะเป็นเพื่อความมีเกียรติหรือเพื่อความสะดวกในการทำมาหารับประทานกับมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก นั่นคือตำแหน่งอธิการบดี แทน อ.สวัสดิ์ บรรเทิงสุข แต่เจอของแข็งเคี้ยวไม่ออก เพราะถ้ากินเค้กก้อนเล็กได้ก็จะมีโอกาสกลายเป็นเค้กก้อนใหญ่และกลายเป็นอาหารอันโอชะไปอีกยาวนาน แต่แผนการมิได้วางไว้อย่างละเอียดรอบคอบจึงไม่เป็นผล กว่าจะตั้งหลักหาเหตุผลมาอธิบายอย่างข้าง ๆ คู ๆ เรื่องการพยายามกรรโชกทรัพย์ก็ต้องใช้เวลาหลายเดือนแต่ก็ฟังไม่ขึ้น

      นายแสบสันต์ ประสาท เป็นใครหรือก็คือโจรที่พยายามพลางพฤติกรรมในการอำพรางตน ทำเหมือนกับเป็นคนดีแต่พฤติกรรมที่ผ่านมา...ไม่ปรากฏว่ามีอาชีพอะไรที่มีรายได้อย่างชัดเจน...ที่แน่ ๆ ...มีการดำรงชีพด้วยรายได้ที่เป็นวิถีทางที่ไม่ธรรมดา งานนี้จึงต้องออกอาการหนักเพราะเคี้ยวมหาวิทยาลัยสันติภาพโลกไม่ออก ถ้าลองสังเกตการสนทนาใน Social Network ก็จะรู้ว่ามีการรำพึงรำพันในเรื่องใด...จ้องเล่นงานมหาวิทยาลัยสันติภาพโลกอย่างเดียว ไม่เป็นอันทำงานเพราะไม่มีงานทำแน่ชัด วันทั้งวันอยู่แต่กับการประกอบข่าวเทียมให้เกิดความคลุมเครือ...ผู้ที่เชื่อก็คือคนหัวอ่อน

      นี่ก็ถึงคราวที่ นายแสบสันต์ ประสาท จะเจอของจริง...ความโกรธแค้น ความล้มเหลวความอับอาย ที่เสียฟอร์มแล้วการถูกแฉประกอบกับความขาดแคลนในปัจจัยหรือจะพูดง่าย ๆ ก็คือ...โจรขาดเงินทุนหมุนเวียน จึงเดือดร้อน...เมื่อชั่วไม่สำเร็จ ก็เลยกัด..มหาวิทยาลัยสันติภาพโลกไม่ปล่อย

      สิ่งที่ นายแสบสันต์ ประสาท กำลังกระทำอยู่ในขณะนี้คือความพยายามชั่ว ตามวิถีทางที่คุ้นเคย โดยได้พยายามไปแจ้งความต่อกองปราบปราม แล้วรีบนำใบแจ้งความมาลง Facebook ทั้ง ๆ ที่เป็นเพียงการกล่าวหาซึ่งตำรวจยังไม่ออกหมายเรียกและยังมีรายละเอียดอีกมากมายที่จะต้องพิสูจน์ ซึ่งการนำบันทึกการแจ้งความแล้วรีบมาลง Facebook นั้นคือการส่อเจตนาโดยชัดแจ้ง ในการหมิ่นประมาทบุคคลทั้ง 6 คน ด้วยการโฆษณาและยังมีคดีอีกหลายกระทงหลายความผิดที่ติดตามมาอย่างแน่นอน

      เบื้องต้นผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 6 คน จะดำเดินคดีต่อ นายแสบสันต์ ประสาท ใน 9 จังหวัด ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและจะถูกฟ้องดำเนินคดีอาญาโดยตรงที่

1.สภอ.ตากใบ                   จ.นราธิวาส
2. สภอ.ยะหริ่ง                   จ.ปัตตานี
3. สภอ.เบตง                     จ.ยะลา
4. สภอ.สะบ้าย้อย              จ.สงขลา
5. สภอ.ตะโหมด               จ.พัทลุง
6. สภอ.เมือง                      จ.กาฬสินธุ์
7. สภอ.ศีขรภูมิ                  จ.สุรินทร์
8. สภอ.เชียงของ               จ.เชียงราย
9. สภอ.พระประแดง         จ.สมุทรปราการ

      เชื่อว่า นายแสบสันต์ ประสาท จะได้รับบทเรียนของความเป็นโจรที่อำพรางเป็นตำรวจอย่างแน่นอน งานนี้ยังมีอีกหลายคดีที่เกี่ยวกับการเปิดเผยความลับของทางราชการทั้ง สกอ.และกองปราบ ในการนำเอกสารของทางราชการมาใช้ในทางมิชอบ
      หวังว่า นายแสบสันต์ ประสาท จะได้จัดเตรียมงบประมาณ ตั้งทนายความและค่าเดินทางอย่างพอเพียงอย่างแน่นอน คงจะได้พิสูจน์ว่า...โจรหมุนเงินทันหรือไม่...ก็คงจะรู้กันคราวนี้

โปรดติดตามอย่ากระพริบตาว่างานนี้....เพียงแค่ราคาคุยหรือเปล่า....แล้วจะรู้ว่าถ้าไม่ไปรายงานตัวตามหมายเรียกของเจ้าพนักงานก็จะเห็นหมายจับของจริงแต่ละท้องที่จะช่วยให้ นายแสบสันต์ ประสาท รู้ได้เองว่า...นรกบนดินเป็นอย่างไร

                                                                                          เคียว  คมกระบี่



            


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น