วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ยิ่งนานวัน แสบสันต์ ประสาทเสื่อม ยิ่งเปิดเผย ธาตุแท้แห่งความเป็นโจรชั่วเชิงบูรณาการให้เห็นกันชัดเจนยิ่งขึ้น ผอ.ออ. (ผ.อ.แปลว่าผู้กระทำการอันอุบาทว์) แห่งสำนักข่าวเบาะเน่า


ยิ่งนานวัน แสบสันต์ ประสาทเสื่อม ผ.อ.(แปลว่าผู้กระทำการอันอุบาทว์) แห่งสำนักเบาะทรุด

ยิ่งลนลาน คลุ้มคลั่ง ไม่เป็นอันทำมาหากิน (นอนกลางวันชั่วกลางคืน) เพราะอาชีพของมิจฉาชีพอย่าง แสบสันต์ ประสาทเสื่อม กำลังเข้าตาจนครั้นจะไปปล้นเขากิน...ก็สู้โจรอาชีพเขาไม่ได้ ครั้นจะเป็นนักข่าว...นักข่าวอาชีพองค์กรทางด้านสื่ออาชีพเขาก็ไม่เอา แถมสื่ออาชีพเขาอธิบายคุณภาพของแก๊งกรรโชกทรัพย์  ตบทรัพย์ คณะเบาะทรุดภายใต้การนำของ แสบสันต์ ประสาทเสื่อม ได้อย่างเห็นภาพอย่างชัดเจน เมื่อไม่กี่วันมานี้ผู้ใหญ่ที่เขาทราบเรื่องของ แสบสันต์ ประสาทเสื่อม เกี่ยวกับพฤติกรรมที่พยายามทำลายภาพมหาวิทยาลัย กล่าวหาสารพัด...เช่น เถื่อน ฉ้อโกง ต้มตุ๋น...ทำทุกวิถีทางยื่นหนังสือต่อหน่วยงานราชการ เมื่อได้หนังสือตอบตามคำถามของ นายแสบสันต์ แต่นายแสบสันต์ก็นำหนังสือนั้นไปใช้ในทางที่ผิดทำให้หน่วยงานราชการอาจจะเกิดความเสียหาย และอาจจะเข้าข่ายถูกดำเนินคดี ทั้งเอกสารที่ไปแจ้งความกับตำรวจกองปราบด้วยเช่นเดียวกัน

เมื่อฟังระดับบิ๊ก ๆ  แห่งวงการหนังสือพิมพ์ เขาได้อธิบายเกี่ยวกับพฤติกรรมการทำมาหากินของ นายแสบสันต์ ประสาทเสื่อม แล้วฟังดู...มันช่างเป็นคนไร้ค่า...ที่นำเอาคำว่า สื่อวิชาชีพของเขาไปหากินจริง ๆ เขาบอกว่าไอ้นี่มันเต็ม ๆ เลยครับ...เรื่องของแม่ชีมันก็ไปกลั่นแกล้งเขา...มันเรียกเงินแม่ชี 15 ล้าน แต่มันได้แค่ 5 ล้าน มันชอบเข้าไปแทรกในช่องว่างของสังคม...แล้วมันก็เข้าไปแหย่...แล้วมันก็หาทางให้เขาเจรจา...คนไหนยอมมันก็รับทรัพย์ไป 5 หมื่นก็มี 8 หมื่นก็มี หลักแสนก็เอา

            เขาบอกว่าก็ดูพวกมันซิ มันทำอะไรกิน หนังสือของมัน ถ้ามันกรรโชกทรัพย์ใครไม่ได้ มันก็ไม่ได้พิมพ์พอมันมีเงินบ้าง พอได้พิมพ์หนังสือมันก็เอาหนังสือไปเป็นตัวประกอบขู่การกรรโชกทรัพย์คน ว่ามันจะแฉบ้าง มันจะสารพัดแล้วแต่วิชามารของมัน ทำไมผู้รับปริญญาของมหาวิทยาลัยเขามีความสุขแต่ไม่สนใจหรือใส่ใจในสิ่งที่แสบสันต์ พยายามให้ร้ายแก่มหาวิทยาลัยเพราะบุคคลที่ได้รับการยกย่อง เชิดชูเกียรติให้ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์ เขามีสิ่งดีที่สมควรจะได้รับจริง ๆ ประกอบกับความเข้าใจอย่างชัดแจ้งว่า...จู่จู่ก็มีคนโจมตี...ทั้ง ๆ ที่กิจกรรมทั้งหมดที่ทางมหาวิทยาลัยกระทำให้แก่คน เป็นสิ่งที่ดีและความดีจึงไม่มีคำว่า “เถื่อน” เมื่อมีผู้กล่าวหาหรือพยายามโจมตี ทำลายมหาวิทยาลัย วิพากษ์วิจารณ์ต่อว่าเหน็บแนมเหล่าบรรดาผู้รับปริญญาไปในทำนองที่เป็นความเท็จไม่สร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นพระ เป็นศิลปินผู้มีชื่อเสียง คนดีของสังคม แสบสันต์ก็นำภาพมาเยาะเย้ยในทำนองดูถูกดูแคลนราวกับว่า...ท่านเหล่านั้นโง่เขลา ไม่มีภูมิปัญญาจะเข้าใจอะไรต่าง ๆ แล้วพยายามอ้างกฎหมาย อ้างหน่วยงานราชการนำเอกสารที่ไม่ใช่วัตถุประสงค์ของทางราชการ มาตีความแบบโง่ ๆ ไร้ความรู้ความเข้าใจในหลักกฎหมาย พยายามตีความสนับสนุนความคิดชั่วของตน เพื่อชักนำคนให้หลงเชื่อ แต่ก็ไม่เป็นผล...ทั้ง ๆ ที่นายแสบสันต์ ประสาทเสื่อม พยายามทำทุกวิถีทางแต่ไม่เป็นผล ไม่มีคนเขาเอาด้วยแจ้งความก็ยังเงียบ...แถลงข่าว...นักข่าวก็ไม่เอาด้วยแถมไปเขียนข้อความโจมตีเจ้าของอาชีพเขาอีก นักข่าวอาชีพเขาก็ต้องรักศักดิ์ศรี รักอาชีพของเขาซิ

            ความผิด ความเถื่อน หรือความหมายอื่นใดที่ แสบสันต์ พยายามยัดเยียดให้แก่มหาวิทยาลัยและผู้บริหาร “ศาลเท่านั้นจะเป็นผู้ชี้” ว่าแต่ว่าตอนนี้ทำยังไงก็ยังไม่ไปถึงศาล เพราะ นายแสบสันต์ มิใช่ผู้เสียหาย และผู้ที่ควรจะเป็นผู้หายที่นายแสบสันต์ ประสาทเสื่อม พยายามอ้างความดี ความถูกต้อง เพื่อจะปกป้อง...เขาเหล่านั้นมีความสุขดี ไม่รู้สึกว่าถูกหลอกหรือถูกต้มตุ๋น ไม่รู้สึกว่าผู้บริหารมหาวิทยาลัย คนใดฉ้อโกง ทุกท่านยังภาคภูมิใจในเกียรติ แต่ทำไม “แสบสันต์ ประสาทเสื่อม” จึงดิ้นทุรนทุราย จึงสติแตก จึงคลุ้มคลั่ง  เพราะว่าความโลภ ความโง่เขลา ความชั่ว ความอุบาทว์ ความจัญไร ความระยำ กำลังครอบงำความคิดของ เขามีอาชีพ กรรโชกทรัพย์เลี้ยงลูกน้องเขาไม่ใช่สื่อ เขาไม่กล้าในสังคมเมือง เขาขาดวิสัยทัศน์แห่งความดีและเขาขาดวิวัฒนาการแห่งการสร้างสรรค์ เขาขาดความเข้าใจในตัวเอง เขาคิดว่าเขาดี เขาคิดว่าเขาแน่ เขาคิดว่าเขาคือ ผอ.ของสื่อ เขาคิดว่าคนจะต้องรู้จักเขา...เขาโง่เขลาจริง ๆ เขาไม่ยอมรับว่าเขาไม่ใช่สื่อ...เขาพยายามโอ้อวดว่าจบตรี...จบโท กำลังเรียนเอก...น่าเห็นใจสถาบันที่มีคนประเภทนี้เข้าไปเรียน แล้วทำไมผลผลิตออกมาเป็น “นายแสบสันต์ ประสาทเสื่อม”  ทำไมตอนนี้นายแสบสันต์ ประสาทเสื่อม อาละวาดหนักทางอินเตอร์เน็ต ยิ่งอาละวาด...ยิ่งประจานคุณภาพของตัวเองยิ่งเปิดเผยธาตุแท้ว่า...เหตุใด นายแสบสันต์ จึงอ้างพี่น้องชาวไทย ทำไมกล่าวร้ายแบบโง่ ๆ

            คนที่เจริญแล้วทางด้านจิตใจใครเขาบังอาจนำเอารูปแบบในบรรยากาศที่ดี ๆ บรรยากาศที่เป็นมงคลมีการสวดมนต์ กรวดน้ำ มุทิตา การกล่าวอวยพรแสดงความยินดี ภาพที่มีผู้รับปริญญาที่ นายแสบสันต์ และแก๊งนำมาใช้...เพื่อหวังจะทำลาย ล้อเลียน เยาะเย้ย เป็นภาพถ่ายที่อยู่ในบรรยากาศที่ดี แต่เพราะจิตชั่ว ความคิดอัปปรีย์ไม่มีหนทางทำมาหากิน นำภาพที่ดี ๆ ไปบิดเบือนให้ร้ายแล้วบอกว่า...เพื่อปกป้องมิให้คนหลงเป็นเหยื่อ  แล้วมีใครบ้างที่โง่เขลาเบาปัญญาและได้รับเกียรติให้รับปริญญาบัตร ยิ่งถ้าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่แล้วก็มีฝ่ายตรวจสอบ เขาได้ตรวจสอบ เขาติดตาม เขาสนับสนุนอุดมการณ์แห่งสันติภาพ เขาจึงเห็นด้วยจึงนำเสนอผู้ใหญ่ให้ได้รับเกียรตินี้ แต่ “นายแสบสันต์ ประสาทเสื่อม” คนจัญไรอัปปรีย์...กลับไร้สติปัญญาที่จะเข้าใจและกลับตัวกลับใจ แสบสันต์ ประสาทเสื่อม กำลังถูกดำเนินคดีอยู่แล้ว หลายคดี ยังไม่รู้ชะตากรรม แต่ที่หนัก...แบบไม่ธรรมดา...แสบสันต์ ประสาทเสื่อม กำลังบ้า ดุจผีสิง เข้าข่ายหมิ่น...บุคคลสำคัญ

            ใครที่เป็นลิ่วล้อของ แสบสันต์ ประสาทเสื่อม ถ้าไม่รักอนาคต...และไม่ประสงค์ที่จะเป็นตัวการร่วมและผู้สนับสนุนต้องครุ่นคิดให้หนัก และควรจะถอยห่างอย่างเร่งด่วน ตอนนี้แสบสันต์ ประสาทเสื่อม กำลังจะมั่งคั่งไปด้วยคดีอาญา และจะโดนของจริงที่แสบสันต์ จะต้องขยาดจนอาจจะลืมคาถา วิชามารไปก็ได้ “โจท” มีมากมายอย่างแน่นอน โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับปริญญาและภาคภูมิใจในสิ่งที่เขาได้ “แสบสันต์” ไม่มีค่าเทอม ไม่มีค่ารถ ไม่มีค่าปรับ ไม่มีให้ลูกน้อง ไม่มีใครเห็นใจ ไม่มีที่นอนเป็นหลักแหล่ง ไม่มีเวลาอีกมากมายนักที่จะซ่าแหกตาให้ร้ายผู้อื่นทางอินเตอร์เน็ต ปกติการใช้อินเตอร์เน็ตคนที่เขาเจริญทางจิต เจริญทางใจ เขาจะใช้อินเตอร์เน็ตในทางสร้างสรรค์ แต่แสบสันต์ กลับเลือกใช้ในทางทำลายผู้อื่น แล้วจะไปรอดหรือ...?

            แสบสันต์ ประสาทเสื่อม พยายามโทรหาบุคคลต่าง ๆ ทั้งเชิงพูดเหมือนเป็นผู้รับ ข่มขู่เป็นนัย ๆ คล้าย ๆ กับนักกฎหมายถ้าประชาชนที่ไม่รู้กฎหมายฟัง นายแสบสันต์ ประสาทเสื่อม พูดก็อาจจะกังวลบ้าง รำคาญพอสมควร

            แค่คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย รู้ทันเกมส์ รู้ทันความเคลื่อนไหวของ “โจร เสือก” ผู้ใหญ่บางคนถึงกับบ่นว่า “แล้วมันเสือกทำไม จะเอาอะไรกันแน่” แล้วมันทำเพื่ออะไร...? จะมองมันเป็นนักเลงก็ไม่ใช่...เพราะนักเลงเขาก็ไม่ใช้นิสัยแบบนี้ สิ่งที่น่าสังเกตสำหรับ นายแสบสันต์ ประสาทเสื่อม คือ..เขาพยายามทำตัวเหมือนกับเป็นคนสำคัญแทนคนอื่นโดยที่คนอื่น ๆ (เสือก) ทั้ง ๆ ที่คนอื่นมิได้เดือดร้อนขอความช่วยเหลืออะไร (แบบนี้ชาวบ้านจะเรียกว่า...เสือก) ถ้ามีผู้เสยหายที่ได้รับความเดือดร้อน...เขาก็มีตำรวจ...มีเจ้าหน้าที่ของรัฐคอยดูแลแต่ แสบสันต์ ประสาทเสื่อม...เป็นบุคคลที่เขาเรียกว่า... “เสือก” เป็นการ “เสือก” เพราะผิดหวังเรื่องผลประโยชน์ กรรโชกทรัพย์ไม่สำเร็จ...จะเคี้ยวหินอ่อนของ World Peace ก็เคี้ยวไม่ออก จะแทะก้อนเกลือแห่งเทือกเขาหิมาลัยก็แทะไม่ออก... “โจรเสือก” ในคราบของผู้ปรารถนาดีต่อสังคม...พยายามชั่วไม่สำเร็จก็กลายเป็นโจรหน้าแตก เพราะความฉลาดมีจำกัด สิ่งที่ไม่จำกัดก็คือ ความโกรธและความโง่เขลา...ก็เลยสร้างภาพ สร้างเรื่อง และเคลื่อนไหวกลบเกลื่อน...แสบสันต์ ประสาทเสื่อม จึงกำลังคลุ้มคลั่งในสื่ออินเตอร์เน็ต กำลังจะหมดภูมิความรู้ ไม่มีความรู้ประเทืองปัญญาให้แก่สังคม นอกจากการกล่าวให้ร้ายสั้น ๆ โจมตีสั้น ๆ วกไปวนมา หารูปโพสต์โดยพยายามใส่ความที่ไม่ดีให้สังคมได้อ่านสันดานตนเองว่าไอ้คนประเภทแบบนี้จะมีโอกาส มีอาชีพที่ดีเพื่อเลี้ยงตัวได้ทางไหนบ้างก็ขอให้ท่านผู้อ่านพิจารณาดูว่าเหตุใด...นายแสบสันต์ ประสาทเสื่อม ซึ่งใคร ๆ ก็ไม่รู้จักมาก่อนพยายามอ้างความชั่วบวกความเท็จใส่ความต่อ มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก เพราะเขาต้องการเงินจากผู้บริหารมหาวิทยาลัยแต่ไม่สำเร็จ อยากเป็นอธิการเพื่อไปทำมาหากินก็ไม่สำเร็จ (หุ่นไม่ให้ แต่ใจมันรัก) ท่านลองคิดดูซิว่า...โจรชั่ว พยายามกรรโชกทรัพย์แล้วไม่ได้จึงพยายามกลายพันธุ์เป็นคนดีแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ก็เลยใช้ปัญญาชุ่ย ๆ ชั่ว ๆ ...ใส่ไข่ ใส่ความผู้บริสุทธิ์ แล้วรอการติดต่อเพื่อเจรจานั่นคือ...เหยื่อในอดีต แต่เหยื่อรายใหม่คือ “มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก” มันเคี้ยวไม่ออก เลียก็ไม่ได้สัมผัสรสแล้วมันจะเป็นคนดีมาจากไหน “ที่มุ่งโจมตีให้ร้ายอย่างเดียว” แต่ปกปิดพฤติกรรมชั่วของตนไว้...นั่นคือโจรชั่วดี ๆ นี่เอง...มิใช่กล่าวลอย ๆ ตรวจสอบประวัติและกำพืดให้ลึก ๆ แล้วจึงรู้ว่าไอ้หมอนี่...คือขยะสังคม

            จะอ้างเป็นสื่อแต่มารยาทความเป็นสื่อไม่มี...แต่พยายามแอบอิงสื่ออาชีพมาเป็นเกราะหากินโจรชั่วพวกนี้ พยายามใช้คำใหม่ที่ดูดี เพื่อปกปิดความชั่วให้สังคมเห็นใจ...ชั่วจนชิน หากินอย่างอื่นไม่เป็น

“คำว่าอุดมการณ์”                ถูกใช้เพื่อปิดบังคำว่า                          “หน้าด้าน”
“หนังสือพิมพ์”                    ถูกใช้เพื่อปิดบังคำว่า                          “กระดาษเปื้อนหมึกเย็บเล่ม”
“กระทำผิดกฎหมาย”          ถูกใช้เพื่อปิดบังคำว่า                          “ความหิวกระหายของโจรที่ผิดหวัง”
“เราต้องปกป้อง”                 ถูกใช้เพื่อปิดบังคำว่า                          “ความทุจริตที่ไม่แนบเนียนมีคนรู้ทัน”
“ที่นี่ประเทศไทยต้องใช้กฎหมายไทย”          ถูกใช้เพื่อปิดบังคำว่า          “ความมืดบอดทางปัญญาไร้วิสัยทัศน์มองโลกไม่เป็น”

-                   ทำไมผู้รับปริญญายังคงรับปริญญาทั้ง ๆ ที่เขารู้ว่า “เบาะทรุด” กำลังโจมตีมหาวิทยาลัย...คนเหล่านั้นที่เป็นผู้ใหญ่เขาบอกว่า “เดี๋ยวมันก็ตายเอง” เพราะมันไม่มีที่มาที่ไป ประวัติมันสั้นมันไม่ดี

-                   ยิ่งโฟสต์ข้อความให้ร้ายหรือรูปภาพให้คนเห็นเป็นมุมมองที่ไม่ดีเท่าใด ก็เท่ากับยิ่งประจานตัวเองมากเท่านั้น

-                   ถ้าตรวจสอบประวัติผู้อ้างตัวเป็นผู้ปกป้อง ผู้รักความถูกต้อง ผู้รักความเป็นธรรมอย่างเช่น แสบสันต์ ประสาทเสื่อมกับการตรวจสอบประวัติของผู้รับปริญญา เปรียบเทียบกันก็รู้ได้ทันทีเลยว่า...ไอ้หมอนี่มันคลุมเครืออำพรางความชั่วซึ่งต่างกันดุจพานทองคำกับกะลามะพร้าวเลยแหละ

-                   ถ้าดูการทำงานที่ออกสังคมเสนอหน้าต่อสาธารณะก็ไม่กล้านักเพราะของปลอม ของเทา ๆ ไม่กล้าเผชิญกับของจริง...ถ้าหากไปอยู่ท่ามกลางสื่ออาชีพจริง ๆ ก็ต้องหลบ ๆ หน้าตา...เพราะรู้ตัวว่า... “หน้าไม่อาย”

ทำไมแสบสันต์ ประสาทเสื่อม มักจะพูดแต่เรื่องเงินว่าคนนั้นเก็บเท่านั้น เท่านี้ เพราะอะไร (เพราะแสบสันต์หิวมากแต่ไม่ได้กิน) หิวเงินและขาดเงิน อยากได้เงินต้องใช้สติปัญญา สร้างกิจการ กิจกรรมขึ้นมา ไม่ใช่ว่าหาช่องทางกล่าวหาคน ขู่คนให้คนกลัว...ฟังคำบอกเล่าที่นายแสบสันต์ พยายามคุย ขู่ หลอก ล่อ อาจารย์สมบัติ เมื่อวันก่อนแล้วยิ่งทำให้รู้เช่นเห็นชาติเลยว่า...บรรดาสัตว์ในเทพนิยายยังมีความประเสริฐกว่า มนุษย์ชั่ว ๆ ที่หากินแบบ...ไร้ปัญญาจริง ๆ

            ไอ้ตัวรีดเงินมันไม่สน พระเถร เณร ชี แกล้งแม่ชีได้ 5 ล้าน แต่ไม่ได้นำเงินไปทำบุญให้บรรพบุรุษจึงเอาเรื่องราวของคนตายแล้ว มาหากินอีก มีหนังสือพิมพ์ฉบับไหนบ้างที่ผู้บริหารระดับสำคัญที่เขาออกมาทำตัวแอ็คชั่นให้ลิ่วล้อปัญญาอ่อนถ่ายรูปให้แล้วนำมาอวดใน Facebook มันประสาทเสื่อมเหมือนกันเป็นคณะจริง ๆ มีคนเปรียบเทียบว่า ถ้าเอาหมามาใส่กางเกงยังดูดีกว่าหรือไม่ ก็เอาลิงกังมาสวมหมวก สวมแว่นตา ก็ดูดีกว่าโจรชั่ว เอาความปรารถนาดีต่อประชาชนมาอ้างเพื่อกลบเกลื่อนความชั่ว ถ้าไม่เป็นแบบนี้ มันเจริญไปนานแล้ว ทุกวันนี้...สัมภเวสีในคราบของ...กระดาษเปื้อนหมึกเย็บเล่มยังไม่สำนึก แสบสันต์ ประสาทเสื่อม โจรชั่วแห่งสำนักเบาะทรุด ไม่รู้จักคำว่า...วิธีการคิด...ไม่รู้จักคำว่า...แนวทางสร้างสรรค์ไม่รู้จักคำว่า...วิวัฒนาการไม่รู้จักคำว่า “ถูก” “ผิด” ความดีไม่มีคำว่า “เถื่อน” ความชั่วจึงไม่มีคำว่าปรารถนาดีความสวยงามที่ถูกบิดเบือน เขาเรียกว่า “โง่เขลาเบาปัญญา” เกาะอาชีพ...สื่อเขาหากินแบบชั่ว ๆ แล้วจะให้คนยอมรับอย่างไร ยิ่งเห็นการเขียนข้อความพยายามยุแหย่ แหกปากถลนตาหาคนมาช่วยเป็นแนวร่วม “เครือข่ายผู้ต่อต้านปริญญาเถื่อน...รู้สึกเศร้าใจกับเจ้าหนู หนวดแมว ที่ขาดการอบรมในเรื่องสมบัติผู้ดีจริง ๆ โบราณชอบด่าคนพฤติกรรมแบบนี้ว่า “ลูกพ่อแม่ ไม่สั่งสอน” แต่เอาเถอะให้อภัยได้เพราะ แสบสันต์ ประสาทเสื่อม ไม่รู้ว่าพ่อเป็นใครจึงอวดโม้อหังกาว่าถ้าพ่อทำผิด ก็จะจับพ่อ โธ่...ชีวิตวิธีคิดหากินยังสู้ขอทานที่ร่างกายพิการไม่ได้เลย...แสบสันต์...ใกล้วันอวสานหมอดูใหญ่...บอกว่า...อย่าไปทำอะไรเขาเลยเพราะตอนนี้ดวงของเขาจะเช้าสู่เวลา...วินาศในอีก 8 ชั่วโมง...? 8 วัน...? 8 สัปดาห์...? 8 เดือน...? อ้าว....แฟน ๆ ช่วยลุ้นกันหน่อย…เห็นเขาว่าคนจะทำให้แสบสันต์ ตายทั้งเป็นมีเพศเป็นหญิง จริงหรือไม่จริงก็ต้องคอยดูลิงใส่แว่นเรย์แบน จะจบเห่อีท่าไหน พี่น้องชาวไทยโปรดอย่ากระพริบตา....

เคียว คมกระบี่
            

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น