วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556

แสบสัณฑ์ ปัญญาเสื่อม หรือ โศกศัลย์ ปัญญาทราม แห่งสำนัก “เบาะสึก”


แสบสัณฑ์ ปัญญาเสื่อม หรือ โศกศัลย์ ปัญญาทราม แห่งสำนัก “เบาะสึก”

ซึ่งเป็น “มารหัวขน” ของคนวงการสื่อ หรือมีอีกชื่อว่า “เหลือบ” ของสื่อมืออาชีพและบรรยากาศช่วงนี้ช่างเข้ากับคำโบราณที่กล่าวกันไว้ว่า “.....เวลาน้ำลด ตอก็ผุด......”“แสบสัณฑ์ “ หยุดซ่า......โดย...หมายศาล พร้อม หมายเรียก และหมายจับของตำรวจ หลายท้องที่ !

            จากการที่มีมิฉาชีพ แอบแฝงอยู่ในวงการสื่อ ซึ่ง... ชาวสื่อเขาไม่ถือว่าเป็น....คนอาชีพสื่อ แต่เขาถือว่าเป็นเหลือบแห่งวงการสื่อ ก็คือ ....นายแสบสัณฑ์ ปัญญาเสื่อม ตำแหน่ง ผอ.ออ (แปลว่า..ผู้กระทำการอันอุบาวท์) จากสำนัก “เบาะเสื่อม “ หมอนี่และสมาชิกของแก๊ง มักจะทำตัวเป็นผู้มีอำนาจ อวดเบ่ง ข่มขู่คนหัวอ่อนแล้วกรรโชกทรัพย์ ตบทรัพย์คนที่ไม่อยากรำคาญ เพราะอันตพาล “แสบสัณฑ์” ใช้วิชามาร.....ยุแหย่ รุกเร้า เข้าหาคนที่พอจะมีช่องทางให้....มิฉาชีพกลุ่มนี้มองเห็น.......การทำมาหากิน แบบ ตะครุบเหยื่อ โดยนำเอาชื่อหนังสือ...... เบาะเสื่อม ไปเป็นเครื่องมือ แล้วนำเอาภาพในอดีต ของการ กัด ฟัด แม่ชีแก่ ไม่มี ทางสู้หรือ พระสงฆ์หรือ ประชาชนผู้ทำมาหากินที่ตั้งใจทำมาหากิน แต่มีช่องว่างให้ ซาตาน แสบสัณฑ์ เข้าแทรก แล้ว ข่มขู่ รีดเอาเงิน เขาเหล่านั้น มาเลี้ยงชีพได้เป็นเวลาหลายปี

            ถ้าจะสังเกตุ การอวดอ้างเรื่องผลงานของ “แก๊งเหลือบ ของกระดาษเปื้อนหมึก ยี่ห้อ “เบาะเสื่อม” กลุ่มนี้แล้วแทบจะไม่มีผลงานอะไรใหม่ๆเลยเมื่อก่อน......มันทำตัวเหมือนเป็นทนายความ และทำตัวเป็นผู้มีอำนาจ.....อำพรางเป็นเจ้าพนักงานหน่วยปราบปรามต่างๆ ......แต่เป็นของปลอมทั้งเพ โดยปกติคนที่มีอาชีพ ทนายความเขาก็ภูมิใจในอาชีพของเขา.... เขาจึงมักถ่ายรูปสวมเสื้อครุยของทนายความ.......แต่หมอนี่ เล่นซาฟารี หรือแจ๊คเก็ตสีดำ..... เคลื่อนไหวเป็นฝูงเล็กๆ แต่ให้ดูขึงขัง ......ส่วนมากพวกที่อยู่ร่วมฝูง ก็มักจะเป็นพวก.......ชีวิตมีปมด้อย.....ต้องการให้สังคมยอมรับ....โดยเฉพาะหัวหน้าแก๊งเบาะเสื่อม นี่แหละตัวดี.....ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พวกนี้หากินลับๆ ตบทรัพย์เงียบๆ ....กรรโชกซื่อๆ แล้วพยายามอ้างคนมีสีมาเป็น....แบ๊คอัพ ที่ผ่านมา...แสบสันฑ์ ....ผ่านไปได้ อยู่อย่าง ย่ามใจ.... พอถึงยุคที่มีการลงอินเตอร์เน็ตกันได้โดยสะดวก.....พวกซาตาน....แสบสัณฑ์ก็แอบเข้าไปด้อมๆ  มองๆ ในเว๊ปไซด์ ในเฟสบุ๊คของคนอื่นๆ.... เพื่อ...หาเหยื่อ

            เมื่อไม่นานมานี้ “ซาตาน แสบสัณฑ์ ได้บังอาจใช้ความเป็น เหลือบวงการสื่อ” ซื่อบื่อไปคุยกับผู้การตำรวจท่านหนึ่ง....แถวปักษ์ใต้ ตอนบน ปรากฎว่า....ซาตานแสบสัณฑ์... โดนไล่ออกจากห้องผู้การแถมโดนสำทับ ไว้อีกว่า.....ถ้ามึงไม่ดูตาม้าตาเรือ.....เดี๋ยวกูจับมึงแน่  “ซาตาน แสบสัณฑ์” คงจำได้นะ

            ถ้าใครไม่เข้าใจเรื่องกฏหมาย.....แล้วดูพฤติกรรม ดูคำพูดการกระทำ ก็จะเข้าใจผิดว่า.....แสบสัณฑ์เป็นทนาย แม้กระทั่ง....ลูกแก๊งโง่ๆ ......ก็ถูกหลอก เข้าใจว่า แสบสัณฑ์เป็นทนาย ......แต่แสบสัณฑ์.....สิ้นลายเมื่ออ้างกฎหมาย แบบอารมณ์พาไป.... ไม่มีหลักการตีความตามคำนิยาม ซาตานแสบสัณฑ์จึงได้ฉายาใหม่ว่า “ทนายวงไพ่”

            เรื่องเล็ก กลายเป็นเรื่องใหญ่.....เมื่อซาตานแสบสัณฑ์ถูกคนเข้าใจผิดในคุณภาพ จึงได้ถูกเชิญให้รับปริญญาดุษฎีกิตติมศักดิ์ของมหาวิทยาลัยสันติภาพโลกกำลังถูกเรียกว่า ศ(กิตติมศักดิ์) ดร........ประกอบกับความโลภความหวัง ความหลงลืมตัว........พาลให้อยากเป็น....ทั่นอธิการบดี

            แต่พอไม่สมหวัง.......จึงออกอาการอาละวาด ทางอินเตอร์เน็ตตั้งแต่วันที่ 23 กพ 56 (วันแห่งความสิ้นหวัง) และโจมตีมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก พร้อมด้วยคณะผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร ซึ่งเป็นครูอาจารย์ .....ทุกรูปแบบ ชนิดที่ซาตานแสบสัณฑ์ ไม่เป็นอันกินอันนอน
            เพราะเงิน 500,000 บาท ที่อยากจะได้ ก็ไม่ได้ตำแหน่งก็ไม่ได้.....แถมเจอของแข็งอีกต่างหาก
            แสบสัณฑ์จึง..... สวมวิญญาณ “อันธพาล” หาญกล้า.....ไปร้อง สกอ. ร้องกองปราบ ร้ององค์กรสงฆ์ และนำเอกสารราชการ...ที่ไม่ใช่วัตถุประสงค์ให้ใช้ไปในทางที่มิชอบสันดาน ซาตาน แสบสัณฑ์ ปัญญาเสื่อม แห่งสำนัก เบาะทรุด......จึงแสดงความหยาบคาย ปั้นป่วนวุ่นวาย ไม่ให้มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก ทำกิจกรรมโดยสะดวก
            เมื่อเเสบสัณฑ์....ถูกหลอก...ให้ป่วนอย่างเต็มที่.....ให้บ้าระห่ำอย่างเต็มที่... จนหมดกึ๋นแล้ว ครานี้....”คดี” ของแสบสัณฑ์ “อื้อ”

            นับว่า...เป็นเวลา....ของซาตานชั่ว ยี่ห้อ “แสบสันณ์” ที่จะต้องชดใช้กรรม....
            ตอนนี้พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รัก ผู้อ่านบทความทางอินเตอร์เน็ต ทุกท่านโปรดได้ทราบว่า.....มิฉาชีพ..... ที่เป็นเหลือบแห่งวงการสื่อในนาม “เบาะสึก” นั้น....ไม่ใช่ของจริง แค่เพียงเป็นมิฉาชีพหัวใส....โกหก....สวมรอย เจ้าพนักงาน......สวมรอยคนดี ได้อย่างแนบเนียนมานาน ก็ถึงกาล...อวสาน... เพราะมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก เป็นสถาบันที่เกี่ยวกับเกียรติยศ และคุณค่าของมนุษย์ชาติ.....ดังนั้น ซาตานในรูปแบบของเหลือบวงการสื่อ....ในนาม แสบสัณฑ์ประสาทเสื่อมสำนัก “เบาะทรุด” กำลังถูกดำเนินคดีในหลายท้องที่...ทั้งหมายศาล ทั้งหมายเรียกของตำรวจ ทั้งหมายจับของตำรวจ โดยมีคดีหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณาเป็นข้อหาหลัก

            ข่าวว่า....แสบสัณฑ์กำลังแค้นผู้ก่อตั้งและผู้บริหารมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก อย่างหนัก ถึงกับหลุดปาก..แบบนักเลง กุ๊ย กุ๊ย...อวดใหญ่ อวดโต หมายมั่น ปั้นปาก...จะจัดการกับผู้บริหารมหาวิทยาลัย สันติภาพโลกทั้ง 6 คน ....โดยลืมไปว่า... เหนือฟ้ายังมีฟ้า”

            แสบสัณฑ์ประสาทเสื่อม หารู้ไม่ว่า...ทุกที่ทุกความเคลื่อนไหวของแสบสัณฑ์อยู่ในสายตาของใคร  แสบสัณฑ์.....ไม่เข้าใจในพัฒนาการทางความคิดของมนุษย์ แสบสัณฑ์...ไม่สามารถมองเห็นหรือวิเคราะห์แนวทางการสร้างสันติภาพ ตามแบบของ มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก แต่แสบสัณฑ์ เข้าใจเองว่า...ข้าคือผู้ยิ่งใหญ่ ข้าคือ..เจ้าหนู หนวดแมว...ข้าคือผู้มีอำนาจมืด ข้าคือ ผู้ที่ชาวบ้านซื่อๆ ต้องเกรงขาม

            แต่แสบสัณฑ์ ไม่ทราบเลยว่า...ข้าคือผู้ต้องหา ข้าคือจำเลย ข้าคือนักโทษ
            ข้าคือผู้ที่กำลังถูกกำจัดให้หลุดและหยุดชั่วต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์อีกต่อไป
            ขอไว้อาลัยแด่....แสบสัณฑ์ ปัญญาเสื่อม แห่ง...”สำนักเบาะทรุด”..... ถ้าบุญยังมีพอ....ก็

ขอให้เห็นแสงธรรมส่องชีวิต ส่วนสมุนยังมีเวลากลับใจ...ก่อนที่จะกลายเป็น
ตัวการร่วม หรือผู้สนับสนุน หรือ แสบสัณฑ์ จะกันไว้เป็นพยาน เหมือนกับผู้เฝ้าระวังแบบลับลับ ล่อล่อ

            ที่มีชื่อว่าหมีควายกิเลสหนา.....”แห่งสำนักไม่ซื่อ”
            โธ่....แสบสัณฑ์.....ไม่น่าเลย
โธ่.....หมีควาย (กิตติมศักดิ์) ผู้มีกิเลสหนา...คงเหงาแย่ 
 ใคร.....ไม่แน่......ถอยไป......55555

                                                                                                           

“เหล็กไหล พญานาค” 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น